เมืองโมริโอกะอุดมไปด้วยธรรมชาติ เช่น ภูเขาอิวาเตะ ภูเขาฮิเมคามิ แม่น้ำคิตาคามิ แม่น้ำนาคัตสึกาวะ และแม่น้ำชิซุคุอิชิ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เช่น สวนสาธารณะอิวาเตะ ซึ่งยังคงรักษาซากปราสาทโมริโอกะ หนึ่งในสามปราสาทหลักในโทโฮคุ และที่พักอาศัยของขุนนางศักดินาที่สืบทอดต่อกันมาในแคว้นนันบุ และอิชิวาริซากุระที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ซึ่งว่ากันว่ามีอายุ 400 ปี
นอกจากนี้ เส้นหลักสามชนิดของโมริโอกะคือ “วันโกะโซบะ”, “เรเมน” และ “โมริโอกะ จาจาเมน” รวมถึงอาหารอร่อยเช่น “สาเก” “เต้าหู้” “ นันบุเซมเบ้” และ “โมริโอกะ ดากาชิ” ซึ่งล้วนอร่อยเพราะว่าเมืองนี้มีน้ำสะอาด มีเสน่ห์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด เช่น งานฝีมือแบบดั้งเดิมและผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น “เครื่องเหล็กนันบุ”, “การย้อมลายฉลุโบราณหนานบุ” และ “การย้อมสีม่วงนันบุ ชิโบริ” ซึ่งมีแฟนๆ มากมายทั่วโลก
โมริโอกะเป็นเมืองที่มีเทศกาลตามฤดูกาลมากมาย แต่ละคนเปี่ยมล้นด้วยมนต์เสน่ห์แห่ง “เสียง” “Chagu Chagu Umako” ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้ จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมิถุนายน เสียงระฆัง “Chagu Chagu” เป็นเสียงที่เก๋ไก๋ที่บ่งบอกถึงการมาถึงของต้นฤดูร้อน นอกจากนี้ยังได้รับเลือกจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมให้เป็นหนึ่งใน 100 ภาพเสียงที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นที่ควรอนุรักษ์ไว้ Sansa Odori ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 4 สิงหาคมเป็นงานที่น่าทึ่งซึ่งถือเป็นสถิติโลกของกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดเนื่องจากมีกลองญี่ปุ่น 3,437 กลองเล่นพร้อมกัน “เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงโมริโอกะ ดาชิ” จะจัดขึ้นเป็นเวลาสามวันตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน และคุณจะสัมผัสได้ถึงความเรียบง่ายและความอบอุ่นของชาวโมริโอกะผ่านจังหวะช้าๆ ของกลองและขลุ่ย
สิ่งดึงดูดใจที่ใหญ่ที่สุดของโมริโอกะก็คือการคมนาคมที่สะดวกสบาย เช่น ชินคันเซ็น และคุณสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ รวมถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ อาหาร และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น โมริโอกะเป็นเมืองที่มหัศจรรย์ ไม่ว่าคุณจะเดินเล่นรอบเมืองหรือออกไปนอกโรงเรียนก็ตาม กรุณาออกมา!